ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นในวันนี้ สวนทางค่าเงินยูโร ดอลลาร์แคนาดา และเปโซเม็กซิโกที่ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี ขณะที่ค่าเงินหยวนของจีนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากเม็กซิโก,แคนาดาและจีน
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.81% สู่ระดับ 109.25
ยูโรร่วงลง 0.97% สู่ระดับ 1.026 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่เปโซเม็กซิโกดิ่งลงสู่ระดับ 21.2882 เทียบดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี ส่วนดอลลาร์แคนาดาทรุดตัวแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2546 ก่อนฟื้นตัวแตะระดับ 1.4673 เทียบดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.4% สู่ระดับ 7.3458 หยวนในการซื้อขายที่ตลาดออฟชอร์ หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.3765 หยวนในการซื้อขายช่วงแรก
ตลาดการเงินในจีนยังคงปิดทำการในวันนี้เนื่องในเทศกาลตรุษจีน และจะกลับมาเปิดทำการในวันพุธ
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าที่นำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ขณะที่เรียกเก็บภาษี 10% ต่อน้ำมันที่นำเข้าจากแคนาดา นอกจากนี้ สหรัฐเรียกเก็บภาษี 10% ต่อสินค้าที่นำเข้าจากจีน
ทางด้านแคนาดาประกาศตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐ ขณะที่รัฐบาลเม็กซิโกเตรียมพิจารณาเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐเช่นกัน ส่วนจีนระบุว่าจะยื่นฟ้องสหรัฐต่อองค์การการค้าโลก (WTO)
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังระบุว่า สหภาพยุโรป (EU) จะเป็นรายต่อไปที่ถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษี