ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (5 ก.พ.) โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าการทำสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.35% แตะที่ระดับ 107.578
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ะรดับ 152.53 เยน จากระดับ 154.30 เยนในวันอังคาร (4 ก.พ.) และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9010 ฟรังก์ จากระดับ 0.9050 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4315 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4306 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0407 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0381 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2506 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2482 ดอลลาร์
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้ายังคงสร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินดอลลาร์ โดยเพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่มาตรการภาษีของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้ในวันอังคารที่ 4 ก.พ. รัฐบาลจีนได้ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ ในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.
ด้านทำเนียบขาวเปิดเผยว่า การสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำจีนอาจจะมีขึ้นอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้ เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งด้านการค้าของทั้งสองประเทศ แต่ล่าสุดปธน.ทรัมป์กล่าวว่าเขาไม่รีบร้อนที่จะพูดคุยกับผู้นำจีน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 176,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 24.7% สู่ระดับ 9.84 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. 2567 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี ขณะที่การนำเข้าพุ่งขึ้น 3.5% สู่ระดับ 3.649 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และการส่งออกลดลง 2.6% สู่ระดับ 2.665 แสนล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ในเดือนม.ค.