ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ณ เวลา 23.13 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.21% สู่ระดับ 107.80 ขณะที่ดอลลาร์ดีดตัว 0.28% สู่ระดับ 1.037 เทียบยูโร และปรับตัวลง 0.50% สู่ระดับ 151.81 เยน
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 169,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1%
ปอนด์อ่อนค่าในวันนี้ หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ ขณะที่นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ มีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50% ในการประชุมวันนี้ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
อย่างไรก็ดี กรรมการ MPC จำนวน 2 รายสนับสนุนให้ BoE ปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.50% ในวันนี้ ขณะที่เสียงส่วนใหญ่จำนวน 7 รายสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25%
นอกจากนี้ นายเบลีย์กล่าวว่า BoE ประสบความคืบหน้าในการปรับลดเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจอังกฤษ ซึ่งเป็นสาเหตุให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ และ BoE คาดว่าจะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป ขณะที่กระบวนการปรับลดเงินเฟ้อยังดำเนินต่อไป
นายเบลีย์คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะแตะระดับสูงสุดที่ 3.7% ในปีนี้ ก่อนที่จะปรับตัวลงสู่เป้าหมาย 2% ของ BoE
การดำเนินการของ BoE ในวันนี้ นับเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในปีนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจอังกฤษ
ก่อนหน้านี้ BoE ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75% ในการประชุมเดือนพ.ย.2567 หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00% ในการประชุมเดือนส.ค.2567 ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี
BoE ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2564 จนถึงเดือนส.ค.2566 เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดยได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับ 0.1% สู่ระดับ 5.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี