พับลิก ซิติเซน (Public Citizen) องค์กรคุ้มครองผู้บริโภคของสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลางหรือไม่ ที่ห้ามไม่ให้ประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งรับหรือขอรับของขวัญเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว หลังจากที่ทรัมป์โปรโมตเหรียญมีม (meme coin) ที่เรียกว่า $Trump
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Public Citizen ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานจริยธรรมภาครัฐของสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (5 ก.พ.) พร้อมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานดังกล่าวแนะนำให้มีการยุติการขายเหรียญมีมดังกล่าวของทรัมป์
เหรียญมีมเป็นโทเคนคริปโทฯ ที่ใช้ชื่อหรือภาพลักษณ์ที่อ้างอิงถึงมีมหรือกระแสในโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งโดยปกติแล้วเหรียญมีมจะมีความผันผวนสูง และแทบไม่มีการใช้งานในทางปฏิบัติ
Public Citizen รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 และ 21 ม.ค. หลังจากสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว ทรัมป์ได้ใช้โซเชียลมีเดียทั้งเอ็กซ์ (X) และทรูธ โซเชียล (Truth Social) ในการรีโพสต์ข้อความเพื่อโปรโมตเหรียญมีมของเขา
Public Citizen ระบุว่า เนื่องจากเหรียญมีมดังกล่าวไม่มีการรับประกันมูลค่าหรือผลตอบแทน ผู้ที่ซื้อเหรียญจึงเท่ากับกำลังมอบเงินให้แก่ทรัมป์โดยตรง และทำให้ทรัมป์ร่ำรวยมากขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง การซื้อเหรียญมีมดังกล่าวก็ไม่ใช่การลงทุน แต่ถือเป็นการให้ของขวัญ ซึ่งตามกฎหมายแล้วถือว่าเป็นปัญหา
ทั้งนี้ มาตราว่าด้วยผลประโยชน์ตอบแทน (Emoluments Clause) ของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ห้ามประธานาธิบดีรับเงินหรือของขวัญจากรัฐบาลต่างชาติ แต่เนื่องจากคริปโทฯ มีลักษณะกระจายศูนย์ (decentralized) และมักไม่มีการเปิดเผยตัวตน จึงไม่มีทางตรวจสอบได้ว่าใครเป็นผู้ซื้อเหรียญมีมของทรัมป์
Public Citizen เตือนว่าสิ่งนี้อาจเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติด้วย เพราะหากกลุ่มต่างชาติลักลอบส่งเงินให้ทรัมป์ผ่านการซื้อเหรียญมีม ก็ไม่มีระบบใดที่จะสามารถตรวจจับหรือหยุดยั้งได้