ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์อ่อนค่า หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคถดถอย

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 26, 2025 07:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (25 ก.พ.) หลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนักในเดือนก.พ. ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังปรับตัวลงตามทิศทางของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.27% แตะที่ระดับ 106.308

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 149.08 เยน จากระดับ 149.67 เยนในวันจันทร์ (24 ก.พ.) และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8926 ฟรังก์ จากระดับ 0.8966 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4303 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4228 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0511 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0475 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2669 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2633 ดอลลาร์

Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจได้เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 98.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2567 จากระดับ 105.3 ในเดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 102.3 สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความกังวลมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.ดิ่งลงเกือบ 7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2564 โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ เป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค ความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีร่วงลงหลุดระดับ 4.4% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดดอลลาร์อ่อนค่าลง

นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2567

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ