ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่าหลังภาคการผลิตอ่อนแอ ตลาดจับตาจ้างงานสหรัฐฯ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (3 มี.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่อ่อนแอเกินคาด ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.81% แตะที่ระดับ 106.748

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 150.18 เยน จากระดับ 150.54 เยนในวันศุกร์ (28 ก.พ) และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8975 ฟรังก์ จากระดับ 0.9035 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4499 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4459 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0473 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0368 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2688 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2572 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.6 จากระดับ 50.9 ในเดือนม.ค. โดยดัชนีภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าของสหรัฐฯ

ส่วนดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลง หลังจากปธน.ทรัมป์ออกแถลงการณ์ยืนยันที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ว่า สหรัฐฯ จะดำเนินการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ตั้งแต่วันอังคารที่ 4 มี.ค.ตามกำหนด โดยระบุว่าทั้งสองประเทศไม่มีช่องทางที่จะสามารถหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีได้อีก

นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยในวันพุธนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.จากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง (ADP) และในวันพฤหัสบดีจะเป็นการรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์จากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ

ส่วนในวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.0% ในเดือนก.พ.