คัตสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น กล่าวในวันนี้ (7 มี.ค.) ว่า ทางการจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมหากมีความเคลื่อนไหวที่รุนแรงเกินไปในตลาดปริวรรตเงินตรา ซึ่งเป็นการย้ำเตือนอีกครั้งหลังจากเงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน
"เราพบเห็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและเป็นไปในทิศทางเดียวตั้งแต่เดือนธ.ค." คาโตะกล่าวระหว่างการแถลงข่าวประจำวัน เมื่อถูกถามเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดเงินตราล่าสุด
"เราติดตามความเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนอย่างใกล้ชิด รวมถึงปัจจัยที่เกิดจากการเก็งกำไร และอย่างที่เคยบอกไป เราจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมหากเกิดความเคลื่อนไหวที่รุนแรงเกินไป" เขากล่าว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่ามาตรการจะเป็นอย่างไร หรืออะไรที่ถือว่าเป็น "ความเคลื่อนไหวที่รุนแรงเกินไป"
แม้เงินเยนที่อ่อนค่าเป็นปัญหาสำหรับผู้กำหนดนโยบายของญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นปัจจัยเร่งเงินเฟ้อโดยทำให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อการบริโภค แต่ถ้อยแถลงของคาโตะสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของทางการญี่ปุ่นเกี่ยวกับความผันผวนของค่าเงิน ไม่ว่าจะเป็นการแข็งค่าหรืออ่อนค่าก็ตาม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 147.31 เยนต่อดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดี (6 มี.ค.) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่แล้ว หลังจากสมาพันธ์สหภาพแรงงานญี่ปุ่น (Rengo) ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นเปิดเผยว่าสมาชิกของกลุ่มกำลังเรียกร้องให้ขึ้นค่าแรงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 30 ปี
ผลการเจรจาดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์มองว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีเหตุผลสนับสนุนมากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมนั้น คาโตะกล่าวว่าเป็นหน้าที่ของ BOJ ในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน
"เราคาดหวังว่า BOJ จะดำเนินนโยบายตามข้อตกลงร่วมกับรัฐบาล" เขากล่าว โดยอ้างถึงแถลงการณ์ร่วมปี 2556 ในการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2%