ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (7 มี.ค.) หลังจากการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกชะลอตัวลงในเดือนก.พ. โดยมีการจ้างงานน้อยกว่าที่คาดไว้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.21% แตะระดับ 103.840
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร, ปอนด์ และฟรังก์สวิส แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเยนและดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0843 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ (7 มี.ค.) จาก 1.0802 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี (6 มี.ค.) และปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2921 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.2894 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะ 148.03 เยนในวันศุกร์ จาก 147.69 เยนในวันพฤหัสบดี, ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 0.8800 ฟรังก์สวิส จาก 0.8827 ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะ 1.4365 ดอลลาร์แคนาดาจาก 1.4303 ดอลลาร์แคนาดา
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 151,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 159,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.1% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.0%
รายงานดังกล่าวบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้
สัญญาอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ได้สะท้อนการคาดการณ์ว่า ปีนี้เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงรวม 0.78% หรือประมาณ 3 ครั้ง ๆ ละ 0.25% ตามการคำนวณของ LSEG โดยมีแนวโน้มว่าเฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิ.ย.
เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวในวันศุกร์ว่า เฟดจะไม่รีบเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจะรอดูความชัดเจนเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากนโยบายของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์