ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก ท่ามกลางความกังวลที่ว่านโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ณ เวลา 19.13 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.49% สู่ระดับ 103.47 ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง 0.66% สู่ระดับ 1.090 เทียบยูโร และปรับตัวขึ้น 0.14% สู่ระดับ 147.46 เยน
นักวิเคราะห์เตือนว่า สหรัฐมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ โดยได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของการใช้มาตรการตั้งกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ทั้งนี้ ความเสี่ยงของ "Trumpcession" (Trump + recession) หรือเศรษฐกิจถดถอยจากนโยบายทรัมป์ ได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว Fox News ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะเผชิญภาวะถดถอย และกล่าวเตือนว่า ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการที่เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนผ่าน และแนวโน้มเงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้น
นักวิเคราะห์จากหลายสำนักพากันปรับลดประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเตือนว่าการทำสงครามการค้าของปธน.ทรัมป์กำลังสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้
โกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับเพิ่มโอกาสที่สหรัฐจะเผชิญภาวะถดถอยเป็น 20% จากเดิมที่ระดับ 15% โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของปธน.ทรัมป์และเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกระทบต่อการจ้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 1.5% จากเดิมที่ระดับ 1.9% เนื่องจากผลกระทบของนโยบายการค้าและการควบคุมผู้อพยพเข้าประเทศมีความรุนแรงมากกว่าที่ประเมินไว้
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว -2.4% ในไตรมาส 1/2568 หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว +2.3% ในไตรมาสดังกล่าว