ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบยูโร หลังเยอรมนีบรรลุข้อตกลงด้านการคลัง

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday March 15, 2025 08:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (14 มี.ค.) แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสและเยน โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลังมีรายงานว่าการคาดการณ์เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ยูโรแข็งค่าขึ้นในวันศุกร์ หลังจากพรรคการเมืองในเยอรมนีบรรลุข้อตกลงด้านการคลัง ซึ่งอาจช่วยเพิ่มงบประมาณกลาโหมและกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.1% แตะที่ระดับ 103.719

ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0880 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ (14 มี.ค.) จาก 1.0854 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (13 มี.ค.) ส่วนปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2931 ดอลลาร์ในวันศุกร์ จาก 1.2952 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 148.53 เยนในวันศุกร์ จาก 147.74 เยนในวันพฤหัสบดี, ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 0.8851 ฟรังก์สวิส จาก 0.8831 ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 1.4375 ดอลลาร์แคนาดาจาก 1.4424 ดอลลาร์แคนาดา

ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ฟรีดริช เมร์ซ ประกาศว่า เขาได้รับการสนับสนุนที่สำคัญจากพรรคกรีนส์ (Greens) สำหรับการเพิ่มการกู้ยืมของรัฐครั้งใหญ่

ข้อตกลงนี้คาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาชุดปัจจุบันในสัปดาห์หน้า โดยมีการจัดตั้งกองทุนมูลค่า 5 แสนล้านยูโร (5.4430 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านกฎระเบียบการกู้ยืมเงิน

โดมินิก บันนิง หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ค่าเงิน G10 ของโนมูระ (Nomura) กล่าวว่า ยูโรมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสและปอนด์อังกฤษ อันเนื่องมาจากแนวโน้มการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้นในเยอรมนี

ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับ 57.9 ในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 63.2 จากระดับ 64.7 ในเดือนก.พ. โดยดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ และการดิ่งลงของตลาดหุ้น

ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 4.9% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2565 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.พ.ที่ระดับ 4.3%

นอกจากนี้ ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 3.9% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2536 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.พ.ที่ระดับ 3.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ