ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (17 มี.ค.) หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ขณะที่นักลงทุนจับตาการทำสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.34% แตะที่ระดับ 103.368
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8806 ฟรังก์ จากระดับ 0.8851 ฟรังก์ในวันศุกร์ (14 มี.ค.) และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4283 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4375 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 149.18 เยน จากระดับ 148.53 เยน
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0926 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0880 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2997 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2931 ดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากมาตรการภาษีศุลกากรและและการเลิกจ้างพนักงานรัฐบาลกลางจำนวนมาก
สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านลดลง 3 จุด สู่ระดับ 39 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2567 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 42 โดยดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้างที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ อันเนื่องจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตาได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยระบุว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลง 2.1% ในไตรมาส 1/2568 ซึ่งย่ำแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 1.6%
ทางด้านสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ในรายการ "Meet the Press" ของสถานีโทรทัศน์ NBC ว่า ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงที่ปธน.ทรัมป์อยู่ในอำนาจ อย่างไรก็ดี เขาปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่า สหรัฐฯ จะเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเงิน
นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดในวันพุธนี้ (19 มี.ค.) รวมทั้งจับตาตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจของเฟด และถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อประเมินว่าเฟดมีมุมมองอย่างไรต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการใช้มาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะมีขึ้นในการประชุมเดือนมิ.ย.