ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งความคืบหน้าของการเจรจาสันติภาพในยูเครน
ณ เวลา 21.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.16% สู่ระดับ 103.54 ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่า 0.12% สู่ระดับ 1.091 เทียบยูโร และดีดตัวขึ้น 0.22% สู่ระดับ 149.54 เยน
นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวยืนยันว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จะสนทนาทางโทรศัพท์ในวันนี้ (18 มี.ค.) ระหว่างเวลา 20.00-22.00 น.ตามเวลาไทย
นายเพสคอฟกล่าวว่า ในการสนทนาดังกล่าว ผู้นำทั้งสองจะหารือกันเกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน และการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตสู่ระดับปกติระหว่างรัสเซียและสหรัฐ
นอกจากนี้ นายเพสคอฟกล่าวว่า ปธน.ปูตินและปธน.ทรัมป์มีความเข้าใจซึ่งกันและกันในระดับหนึ่ง หลังจากที่ทั้งสองได้สนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 12 ก.พ. รวมทั้งการเจรจาของเจ้าหน้าที่ในระดับสูงของทั้งสองประเทศ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางญี่ปุ่น และธนาคารกลางอังกฤษ จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด หลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันที่ 19 มี.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ รวมทั้งจับตารายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ
ในการประชุมเดือนธ.ค.2567 รายงาน Dot Plot บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ในปี 2568 จากเดิมที่ส่งสัญญาณในเดือนก.ย.2567 ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 1.00% ในปี 2568
ล่าสุด นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย.และก.ย.
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 19 มี.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย. และปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนก.ย. ก่อนที่จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวจนสิ้นปี 2568