สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (20 มี.ค.) หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากการที่เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่าเฟดจะไม่เร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.41% แตะที่ระดับ 103.848
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8819 ฟรังก์ จากระดับ 0.8776 ฟรังก์ในวันพุธ (19 มี.ค.) และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4328 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4311 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 148.80 เยน จากระดับ 148.84 เยน
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0848 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0908 ดอลลาร์ในวันพุธ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2960 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3008 ดอลลาร์
เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25% - 4.50% ในการประชุมเมื่อวันพุธตามคาด และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ อย่างไรก็ดี พาวเวลกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่าเฟดจะไม่เร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้นเพียง 2,000 ราย สู่ระดับ 223,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 224,000 ราย
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 4.2% สู่ระดับ 4.26 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 3%
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ปรับตัวลงสู่ระดับ 12.5 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 18.1 ในเดือนก.พ. อย่างไรก็ดี ดัชนีภาคการผลิตปรับตัวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.0
ทั้งนี้ ดัชนีภาคการผลิตมีค่าเป็นบวก บ่งชี้ว่าภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกยังคงอยู่ในภาวะขยายตัว โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของการจ้างงาน