ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่า นักลงทุนจับตา PCE ประเมินทิศทางดบ.เฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 28, 2025 07:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (27 มี.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนประเมินผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ รวมทั้งจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.2% แตะที่ระดับ 104.335

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8824 ฟรังก์ จากระดับ 0.8846 ฟรังก์ในวันพุธ (26 มี.ค.) แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 151.11 เยน จากระดับ 150.46 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4320 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4288 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0791 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0755 ดอลลาร์ในวันพุธ ส่วเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2951 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2885 ดอลลาร์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันพุธที่ 26 มี.ค. เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กในอัตรา 25% จากเดิมที่ระดับ 2.5% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. ส่วนการเรียกเก็บภาษีชิ้นส่วนรถยนต์จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 เม.ย. โดยปธน.ทรัมป์คาดหวังว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้บริษัทรถยนต์ย้ายฐานการผลิตกลับมายังสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยสร้างงาน และสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล รวมทั้งช่วยลดหนี้สาธารณะของประเทศ

นอกจากนี้ ปปธน.ทรัมป์เตรียมใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ในวันพุธที่ 2 เม.ย. ขณะที่สก็อต เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีดังกล่าวต่อกลุ่มประเทศ "Dirty 15" หรือ 15 ประเทศที่มียอดเกินดุลการค้าสูงสุดกับสหรัฐฯ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 224,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 226,000 ราย

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2567 โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 2.4% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.3% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่พุ่งขึ้น 4% ในไตรมาสดังกล่าว

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 72.0 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 1.0%

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ