ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังจากที่จีนประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐในวันนี้
ณ เวลา 22.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.64% สู่ระดับ 102.30 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 0.76% สู่ระดับ 1.104 เทียบยูโร และร่วงลง 0.98% สู่ระดับ 144.84 เยน
สำนักงานคณะกรรมการภาษีศุลกากรของสภาแห่งรัฐจีน ประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ สู่ระดับ 84% จากเดิมที่ระดับ 34% โดยมีผลบังคับใช้ในวันพฤหัสบดีที่ 10 เม.ย.
จีนดำเนินการดังกล่าว เพื่อตอบโต้ต่อการที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้าที่นำเข้าจากจีนสูงถึง 104% ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันนี้
ความรุนแรงจากการดำเนินมาตรการตอบโต้ทางภาษีระหว่างจีนและสหรัฐ ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก มีแนวโน้มที่จะส่งผลให้การค้าระหว่างประเทศทั้ง 2 ประสบภาวะชะงักงัน
ข้อมูลจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ระบุว่า สหรัฐส่งออกสินค้ามูลค่า 1.435 แสนล้านดอลลาร์ไปยังจีนในปี 2567 ขณะที่นำเข้าสินค้าจากจีนคิดเป็นมูลค่า 4.389 แสนล้านดอลลาร์
แถลงการณ์ของคณะกรรมการฯ ระบุว่า สหรัฐกำลังดำเนินการที่ผิดพลาด โดยละเมิดสิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมายและผลประโยชน์ของจีน
"การดำเนินการของสหรัฐถือเป็นการกระทำแต่เพียงฝ่ายเดียว เป็นการกีดกันทางการค้า และเป็นการข่มเหงทางเศรษฐกิจ โดยได้ทำลายระบบการค้าพหุภาคีที่อิงตามกฎระเบียบ และกระทบต่อเสถียรภาพของระเบียบเศรษฐกิจโลก"
"จีนขอเรียกร้องให้สหรัฐทำการแก้ไขในสิ่งผิดโดยทันที รวมทั้งยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรแต่เพียงฝ่ายเดียวที่มีการบังคับใช้ต่อจีน และแก้ไขความขัดแย้งผ่านทางการเจรจาบนพื้นฐานที่เท่าเทียมและเคารพซึ่งกันและกัน" แถลงการณ์ระบุ