ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์อ่อนค่า ตลาดวิตกการค้าจีน-สหรัฐฯไม่แน่นอน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 25, 2025 07:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (24 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ หลังจากจากคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกันในเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.47% แตะที่ระดับ 99.375

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 142.73 เยน จากระดับ 143.45 เยนในวันพุธ (23 เม.ย.), อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8281 ฟรังก์ จากระดับ 0.8297 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3861 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3887 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1378 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1322 ดอลลาร์ในวันพุธ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3326 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3265 ดอลลาร์

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้าระหว่างจีนสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะคลี่คลายข้อพิพาทการค้าระหว่างสองประเทศด้วยการกล่าวว่าเขาอาจจะปรับลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนลงจากระดับ 145% อย่างไรก็ดี สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ปธน.ทรัมป์ไม่มีแผนที่จะเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อนในการลดภาษีศุลกากร พร้อมกับกล่าวว่า สหรัฐฯ และจีนยังไม่ได้เริ่มต้นการเจรจาการค้าอย่างเป็นทางการร่วมกัน

ล่าสุด เหอ หย่าตง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนได้ออกมายืนยันว่า ยังไม่มีการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ อีกทั้งปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศ โดยระบุว่าข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริง นอกจากนี้ นายเหอยังเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการภาษีทั้งหมดที่เรียกเก็บจากสินค้าจีน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทางด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 5.9% สู่ระดับ 4.02 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.14 ล้านยูนิต

ส่วนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 9.2% ในเดือนมี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 1.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนก.พ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ