สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (25 เม.ย.) และแข็งค่าขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ หลังจากจีนประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการจากสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เกิดความหวังว่าสงครามการค้าระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่อาจใกล้สิ้นสุดลง
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.1% แตะที่ระดับ 99.470
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 143.57 เยนในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ (25 เม.ย.) จาก 142.73 เยนในวันพฤหัสบดี (24 เม.ย.) แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 0.8271 ฟรังก์สวิส จาก 0.8281 ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 1.3860 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3861 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.1380 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1378 ดอลลาร์สหรัฐ และปอนด์แข็งค่าแตะ 1.3329 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.3326 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.21% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นรายสัปดาห์ครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์มีความผันผวนสูงจากสัญญาณที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน
เมื่อวันอังคาร ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ แสดงท่าทีว่าอาจมีการลดระดับความขัดแย้งเรื่องภาษี โดยระบุว่ากำลังมีการเจรจาโดยตรงเกิดขึ้นแล้ว
ต่อมาในวันศุกร์ ธุรกิจบางแห่งที่ได้รับการแจ้งเตือนได้เปิดเผยว่า จีนได้ยกเว้นภาษีบางส่วนจากที่เคยเก็บในอัตรา 125% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ และกำลังขอให้บริษัทต่าง ๆ ระบุรายการสินค้าที่อาจเข้าข่ายได้รับการยกเว้นเพิ่มเติม
ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Time ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ว่า รัฐบาลของเขากำลังเจรจากับจีนเพื่อทำข้อตกลงเกี่ยวกับภาษี และยังอ้างว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้โทรศัพท์ไปหาเขาด้วย อย่างไรก็ตาม ทางการจีนยังคงไม่เห็นด้วยกับความเห็นของสหรัฐฯ เกี่ยวกับสถานะของการเจรจาดังกล่าว