การปรับตัวขึ้นของพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปีส่งผลให้อัตราผลตอบแทนร่วงลงสู่ระดับ 2.168% ในวันนี้ จาก 2.193% เมื่อวานนี้
นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวในวันนี้ว่า ECB พร้อมที่จะเพิ่มการอัดฉีดเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.1 ล้านล้านยูโร (1.2 ล้านล้านดอลลาร์) เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อให้ฟื้นตัวจากระดับต่ำไปสู่เป้าหมายที่ระดับใกล้ 2% และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ECB ระบุก่อนหน้านี้ว่าจะซื้อพันธบัตรมูลค่า 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน จนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า โดยเริ่มต้นในเดือนมี.ค. คิดเป็นวงเงินรวม 1.1 ล้านล้านยูโร ซึ่งมีเป้าหมายที่จะอัดฉีดเม็ดเงินใหม่ๆเข้าสู่เศรษฐกิจของประเทศยูโรโซนที่กำลังซบเซาลง และจัดการกับภาวะเงินฝืดและอัตราว่างงานในยูโรโซน โดย ECB จะซื้อพันธบัตร เพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับ 2%
นายดรากีระบุในวันนี้ว่า ECB สามารถปรับขนาด, สัดส่วนการซื้อพันธบัตร และช่วงเวลาในการซื้อพันธบัตร หากมีความจำเป็น
ประธาน ECB ยังยืนยันว่า ECB จะเดินหน้าโครงการดังกล่าว จนกระทั่งอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมายของ ECB ที่ใกล้ระดับ 2%
ขณะนี้ อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนอยู่ที่ 0.2% โดยได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ และการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ต่ำกว่าคาด
นอกจากนี้ ECB ยังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจ 19 ประเทศในยูโรโซนในปีนี้ รวมทั้งปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ECB คาดว่าเศรษฐกิจในยูโรโซนจะเติบโต 1.4% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ที่ระดับ 1.5% หลังจากขยายตัว 0.9% ในปีที่แล้ว ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 1.7% ในปีหน้า ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ระดับ 1.9%
นอกจากนี้ ECB ยังได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อสู่ระดับ 0.1% ในปีนี้ จากระดับ 0.3% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ และคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.1% ในปีหน้า ลดลงจาก 1.5% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์