การร่วงลงของพันธบัตรรัฐบาลส่งผลให้อัตราผลตอบแทนที่มีกำหนดส่งมอบในวันที่ 12 พ.ย.ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 0.178% ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2013 ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่ระดับ 0.505%
นายแจ็ค ลูว์ รมว.คลังสหรัฐ กล่าวเตือนว่า มาตรการบริหารเงินฉุกเฉินของรัฐบาลสหรัฐจะหมดอายุลงในวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเสี่ยงที่จะขาดแคลนงบประมาณในการบริหารประเทศ หากสภาคองเกรสไม่อนุมัติการเพิ่มเพดานการก่อหนี้ของรัฐบาลจากระดับ 18.1 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
นายลูว์ระบุในจดหมายถึงสภาคองเกรสว่า หลังจากวันที่ 3 พ.ย. กระทรวงการคลังจะมีเงินสดในการใช้หนี้ และใช้จ่ายด้านอื่นๆเพียง 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งวงเงินดังกล่าวจะหมดลงอย่างรวดเร็ว
ทางด้านสำนักงบประมาณของสภาคองเกรส (CBO) ประเมินว่าในช่วงครึ่งแรกของเดือนพ.ย.นี้กระทรวงการคลังสหรัฐจะขาดแคลนเงินสด หากไม่มีการปรับเพิ่มเพดานการกู้ยืมของรัฐบาล
ก่อนหน้านี้ CBO คาดว่าเงินสดของกระทรวงการคลังจะหมดลงในช่วงกลางเดือนพ.ย.-ต้นเดือนธ.ค.
CBO เปิดเผยว่า หากไม่มีการเพิ่มเพดานหนี้ กระทรวงจะมีเงินสดในระดับต่ำมากในช่วงต้นเดือนพ.ย. และจะหมดลงหลังจากนั้นไม่นาน ซึ่งจะส่งผลให้การเบิกจ่ายเงินสำหรับกิจกรรมต่างๆของรัฐบาลเกิดความล่าช้า และรัฐบาลจะเผชิญกับภาวะผิดนัดชำระหนี้