การร่วงลงของพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปีส่งผลให้อัตราผลตอบแทนดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 2.070% ในวันนี้
นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวย้ำในวันนี้ว่า BOJ จะดำเนินการขยายมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หากมีความจำเป็น โดยราคาของน้ำมันจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจ
นายคุโรดะระบุว่า BOJ ยังคงมีช่องที่จะขยายการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
ทั้งนี้ BOJ จะทำการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ม.ค.
BOJ คาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับเป้าหมายที่ 2% ในช่วงครึ่งหลังของปี หรือในช่วงปลายปีเข้าสู่ต้นปี 2017
นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวในวันนี้ว่า ธนาคารกลางขนาดใหญ่ของหลายประเทศจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่แตกต่างกันต่อไปอีกระยะหนึ่ง
นายดรากีย้ำว่า ECB มีความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมในการกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน หากจำเป็น แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วก็ตาม
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมเมื่อเดือนที่แล้วให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% อยู่ในช่วง 0.25-0.50% โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2006
นายดรากีกล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธ.ค.มีความเหมาะสม เนื่องเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวมากกว่ายุโรปและญี่ปุ่น
เมื่อวานนี้ นายดรากีระบุว่า ECB จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติม หากจำเป็น เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ
นายดรากีแถลงว่า ECB อาจทำการทบทวนนโยบายการเงินในการประชุมครั้งหน้าในเดือนมี.ค.
คำกล่าวของนายดรากีเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB อาจผ่อนคลายนโยบายมากขึ้น และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนมี.ค.
เขากล่าวว่า ภาวะปั่นป่วนในตลาดการเงิน และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และตลาดเกิดใหม่ จะเป็นปัจจัยทำให้ ECB มีการปรับนโยบายในการประชุมครั้งต่อไป