ราคาพันธบัตรสหรัฐขยับขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับข่าวตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่อ่อนแอเกินคาด รวมทั้งข่าวการเกิดไฟป่าในแคนาดา ซึ่งกระทบต่อการผลิตน้ำมันในประเทศ รวมทั้งการปรับเปลี่ยนตัวรมว.น้ำมันของซาอุดิอาระเบีย
ณ เวลา 22.48 น.ตามเวลาไทย พันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่อัตราผลตอบแทนลดลงสู่ระดับ 1.7595% ส่วนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปีมีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 2.6199%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 202,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 7 เดือน นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัว
ส่วนอัตราว่างงานยังทรงตัวที่ระดับ 5% ในเดือนเม.ย. สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
ด้านตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 25.53 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ซบเซาน่าจะช่วยลดความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. โดยเฟดอาจต้องการหลักฐานเพิ่มเติมที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการกล่าวถ้อยแถลงของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขาซาน ฟรานซิสโก ในวันนี้
นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวในวันนี้ว่า จุดยืนด้านนโยบายการเงินของเฟดที่จะรอคอยและจับตาข้อมูลเศรษฐกิจต่อไป ก่อนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ยังคงมีความเหมาะสม ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจของสหรัฐมีความแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มที่จะมีการขยายตัว 2.5% ในปีนี้
นายอีแวนส์ระบุว่า การลงทุนทางด้านธุรกิจ และเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าที่เขาต้องการ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ตลาดการเงินคาดการณ์เพียง 1 ครั้ง โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนธ.ค. หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.
ท่าทีของนายอีแวนส์ในวันนี้ ถือว่าแตกต่างจากเมื่อเดือนมี.ค. ซึ่งขณะนั้นเขากล่าวว่า เขาพร้อมที่จะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.
"เมื่อพิจารณาถึงภาวะเศรษฐกิจ ผมคาดว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 2 ครั้งในปีนี้" เขากล่าวในขณะนั้น
นายอีแวนส์มองว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในกลางปีนี้ และอีกครั้งหนึ่งในปลายปี