พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ
ทั้งนี้ การดีดตัวขึ้นของพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนร่วงลงแตะระดับ 1.844% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปีอ่อนตัวลงแตะระดับ 2.641%
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เอฟโอเอ็มซี) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 เม.ย.เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. หากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
"กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า หากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัวได้ดีขึ้นในไตรมาส 2 รวมทั้งตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และเงินเฟ้อเริ่มเคลื่อนไหวใกล้ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนมิ.ย.ก็ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม" รายงานการประชุมของเฟดระบุ
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 278,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 พ.ค. หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
การที่ผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. หลังจากที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะลดลงสู่ระดับ 275,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้อยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 63 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973
Conference Board เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ประจำเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากทรงตัวในเดือนมี.ค. และเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี LEI จะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย.
Conference Board ระบุว่า การพุ่งขึ้นของดัชนี LEI บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของภาคการผลิต และตลาดที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ ดัชนี LEI คำนวณจากตัวเลขเศรษฐกิจ 10 ประเภท ซึ่งบางส่วนได้แก่ คำสั่งซื้อใหม่ของภาคการผลิต, ราคาหุ้น และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน