พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจ, การประมูลพันธบัตรอายุ 10 ปี วงเงิน 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีการตรึงอัตราดอกเบี้ย และส่งสัญญาณปรับขึ้นในช่วงปลายปี
การดีดตัวของราคาพันธบัตร ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.632% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 2.345%
ทั้งนี้ ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ เฟดระบุว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ฟื้นตัวขึ้น
นอกจากนี้ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวหลังสิ้นสุดการประชุมว่า ตนคาดหวังที่จะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้
เฟดยังเหลือการประชุมอีก 2 ครั้งในปีนี้ คือวันที่ 1-2 พ.ย. และ 13-14 ธ.ค.
นักวิเคราะห์มองว่าแถลงการณ์ของเฟดบ่งชี้การขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในปีนี้ ขณะที่เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ย. เนื่องจากไม่ต้องการส่งผลกระทบก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนส.ค. ร่วงลงสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ยอดขายบ้านมือสองลดลง 0.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.33 ล้านยูนิต
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านมือสองจะเพิ่มขึ้น 1.1% สู่ระดับ 5.45 ล้านยูนิตในเดือนส.ค.
เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนส.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 252,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 262,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้อยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 81 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970