พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวไร้ทิศทางในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐที่มีการขยายตัวมากกว่าที่คาดไว้
พันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นในวันนี้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรร่วงลงสู่ระดับ 1.846% ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปีอ่อนตัวลง และทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.6136%
ทั้งนี้ ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขประมาณการเบื้องต้นสำหรับการขยายตัวของจีดีพีประจำไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 2.9% โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.5% จากแรงหนุนของการส่งออก และการลงทุนด้านสินค้าคงคลัง ถึงแม้การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลง
การขยายตัวที่ระดับ 2.9% ในไตรมาส 3 ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2014 หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐมีการเติบโต 1.4% ในไตรมาส 2 และ 0.8% ในไตรมาส 1 ขณะที่มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 1.1% ในช่วงครึ่งปีแรก
การส่งออกของสหรัฐเพิ่มขึ้น 10% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2013 และช่วยหนุนตัวเลขจีดีพีคิดเป็นสัดส่วน 0.83% จากที่ช่วยหนุนเพียง 0.18% ในไตรมาส 2
ส่วนการลงทุนด้านสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 และช่วยหนุนตัวเลขจีดีพีคิดเป็นสัดส่วน 0.61%
อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.1% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับระดับ 4.3% ในไตรมาส 2
นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 1-2 พ.ย. ที่มีการคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่อาจมีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.