พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับข่าวเกี่ยวกับการเลือกตั้งในสหรัฐ และจับตาตัวเลขเศรษฐกิจ รวมทั้งการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 1-2 พ.ย.
การดีดตัวของราคาพันธบัตร ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.84% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 2.596%
ทั้งนี้ ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.ย. โดยปรับตัวขึ้น 0.5% หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนส.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย.
การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดได้ปัจจัยบวกจากคำสั่งซื้อรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนส.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE ดีดตัวขึ้น 1.2% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2014
นอกจากนี้ ดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐาน ดีดตัวขึ้น 1.7% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.7% เช่นกันในเดือนส.ค. แต่ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ของเฟด
นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 1-2 พ.ย. ซึ่งคาดว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ แต่อาจมีการส่งสัญญาณปรับขึ้นในเดือนธ.ค.
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังรอความชัดเจนในแวดวงการเมืองสหรัฐ หลังจากที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต แม้ว่า FBI ประกาศปิดคดีดังกล่าวไปในเดือนก.ค.ก็ตาม