อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองพุ่งแตะ 4% ตามบอนด์ยิลด์ หลังนักลงทุนแห่ถอนตัวจากตลาดพันธบัตร

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 15, 2016 00:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองดีดตัวทะลุระดับสำคัญทางจิตวิทยาในวันนี้ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้น ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายในตลาดพันธบัตร และส่งแรงซื้อเข้าสู่ตลาดหุ้น จากการคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวมากขึ้น ภายใต้การบริหารงานของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะเวลา 30 ปีพุ่งแตะระดับ 4% ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังไม่แตะระดับดังกล่าวก่อนกลางปีหน้า

ขณะนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองได้ดีดตัวขึ้นเกือบ 0.50% แล้วนับตั้งแต่ที่นายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองได้ปรับตัวขึ้นตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ซึ่งได้ทะยานขึ้นอย่างมากในวันนี้

ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทรุดตัวลงในวันนี้ หลังจากที่ปิดทำการในวันศุกร์ เนื่องในวันทหารผ่านศึก ขณะที่นักลงทุนโยกเงินเข้าตลาดหุ้น ขานรับนโยบายของนายทรัมป์ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อของสหรัฐ

การร่วงลงของราคาพันธบัตร ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.251% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี พุ่งแตะระดับ 3.013% หลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.2015 ในช่วงแรก

ทั้งนี้ ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และประเทศในยุโรปพุ่งขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าสหรัฐจะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ภายใต้การบริหารงานของนายทรัมป์

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีประเภทอายุ 30 ปี พุ่งแตะระดับ 1% ในวันนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวแตะระดับ 2% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2015

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ชัยชนะในการเลือกตั้งของนายทรัมป์อาจถือเป็นการสิ้นสุดภาวะกระทิงของตลาดพันธบัตรที่ได้ดำเนินมากว่า 30 ปี เนื่องจากนักลงทุนหันมาโยกเงินจากตลาดพันธบัตรเข้าสู่ตลาดหุ้น จากการคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวเร็วขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นภายใต้การบริหารเศรษฐกิจของนายทรัมป์ "เราเห็นว่านักลงทุนหันความสนใจออกจากตลาดพันธบัตร โดยโยกเงินทุนเข้าสู่ตลาดหุ้น" นายเจฟฟรีย์ กุนด์แลค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทดับเบิลไลน์ แคปิตอล กล่าว ทั้งนี้ การทรุดตัวของตลาดพันธบัตรเพียง 2 วันในสัปดาห์ที่แล้ว ได้ส่งผลให้เม็ดเงินในตลาดพันธบัตรทั่วโลกหายไปถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบเกือบ 1 ปีครึ่ง จากมุมมองของนักลงทุนที่ว่านโยบายเศรษฐกิจของนายทรัมป์จะกระตุ้นการลงทุน และการใช้จ่าย ซึ่งจะส่งผลให้เงินเฟ้อทะยานขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ