พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนยังคงมีความวิตกต่อนโยบายจำกัดคนเข้าประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นักลงทุนรอการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้ โดยจะจับตาแถลงการณ์หลังการประชุมเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
การดีดตัวของราคาพันธบัตร ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.44% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 3.045%
ทั้งนี้ ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ย. โดยได้แรงหนุนจากรายได้ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้น, การว่างงานที่ลดลง และอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ
ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ หลังจากเพิ่มขึ้น 5.1% ในเดือนต.ค.
ราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงสุดในเมืองซีแอตเติล, พอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน และเดนเวอร์
ส่วนดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนพ.ย. จากระดับ 5.5% ในเดือนต.ค.
ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่ระดับ 111.8 ในเดือนม.ค. หลังจากพุ่งแตะระดับ 113.7 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะแตะระดับ 113.0 ในเดือนม.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีดังกล่าวเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะธุรกิจ, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน
นายลินน์ ฟรังโก ผู้อำนวยการฝ่ายดัชนีบ่งชี้เศรษฐกิจของ Conference Board ระบุว่า ถึงแม้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลงในเดือนนี้ แต่ผู้บริโภคยังคงมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะมีการขยายตัวในช่วงหลายเดือนข้างหน้า