พันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษทะยานขึ้นสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษ ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ รวมทั้งนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันพฤหัสบดีนี้ การปรับตัวลงราคาพันธบัตร ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.49% ทั้งนี้ ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อ ปรับตัวขึ้นแตะ 2.3% ในเดือนก.พ. จากระดับ 1.8% ในเดือนม.ค. ราคาเชื้อเพลิงและราคาอาหารที่แพงขึ้นเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ.พุ่งสูง นอกจากนี้ ผลการลงประชามติ Brexit เมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้วได้ส่งผลให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงอย่างมาก ซึ่งเป็นเหตุให้สินค้านำเข้ามีราคาแพงขึ้น โดยตัวเลขเงินเฟ้อที่มีการเปิดเผยล่าสุดนี้ นับว่าสูงที่สุดตั้งแต่เดือนก.ย. 2556 และสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% ของธนาคารกลางอังกฤษ ทั้งยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2556 ที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลาง
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อในอังกฤษยังส่งผลให้สกุลเงินปอนด์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเมื่อเวลา 19.13 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.9% สู่ระดับ 1.2471 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.ปีนี้
ด้านมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ชี้ไม่ควรมีปฏิกิริยารุนแรงเกินไปต่อข้อมูลเศรษฐกิจเพียงเดือนเดียว หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษพุ่งแตะ 2.3% ในเดือนก.พ. ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 2% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี
นายคาร์นีย์กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวในการตอบคำถามเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ระหว่างที่เขาได้เข้าร่วมการอภิปรายแบบคณะว่าด้วยมาตรฐานจรรยาบรรณธนาคาร ในกรุงลอนดอน