พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
การร่วงลงของราคาพันธบัตร ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.307% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 2.956%
ทั้งนี้ ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 120.3 ในเดือนเม.ย. โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 122.9
ก่อนหน้านี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคแตะระดับ 125.6 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2000 หลังจากแตะระดับ 116.1 ในเดือนก.พ.
ผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคที่ระบุว่าธุรกิจอยู่ในภาวะดี มีจำนวนลดลงสู่ระดับ 30.2% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 32.4% ขณะที่ผู้บริโภคที่ระบุว่าธุรกิจอยู่ในภาวะย่ำแย่ มีจำนวนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 13.8% จากระดับ 13.1%
นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังลดความเชื่อมั่นต่อตลาดแรงงาน โดยผู้ที่คาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า มีจำนวนลดลง สู่ระดับ 23.0% จากระดับ 23.8%
ทั้งนี้ ดัชนีดังกล่าวเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะธุรกิจ, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนมี.ค.แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 621,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2016 หลังจากอยู่ที่ระดับ 587,000 ยูนิตในเดือนก.พ.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านใหม่จะลดลง 0.8% สู่ระดับ 583,000 ยูนิตในเดือนมี.ค.
เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 15.6% ในเดือนมี.ค.
ยอดขายบ้านใหม่ดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยจำนองในระดับต่ำ, สต็อกบ้านที่มีจำนวนไม่มากนัก รวมทั้งตลาดแรงงานที่สดใส
ยอดขายบ้านใหม่ทะยานขึ้นในเขตตะวันตก และเขตตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ร่วงลงในเขตมิดเวสต์
นอกจากนี้ ราคาเฉลี่ยของบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 1.2% สู่ระดับ 315,100 ดอลลาร์ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว