พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจ และผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาล
การร่วงลงของราคาพันธบัตร ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.259% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 2.834%
ทั้งนี้ ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ทางกระทรวงได้จำหน่ายพันธบัตรประเภทอายุ 3 เดือน และ 6 เดือนในวันนี้ โดยมีอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2008 ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการชำระหนี้ของสหรัฐ หากสภาคองเกรสไม่สามารถปรับเพิ่มเพดานหนี้ ก่อนที่รัฐบาลจะขาดงบประมาณในการบริหารประเทศ
กระทรวงการคลังประมูลพันธบัตรอายุ 3 เดือน วงเงิน 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราผลตอบแทนที่ระดับ 1.180% และประมูลพันธบัตรอายุ 6 เดือน วงเงิน 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราผลตอบแทนที่ระดับ 1.130%
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2008 กระทรวงการคลังประมูลพันธบัตรอายุ 3 เดือน โดยมีอัตราผลตอบแทนที่ระดับ 1.250% ขณะที่ในสัปดาห์ต่อมา ทางกระทรวงประมูลพันธบัตรอายุ 6 เดือน โดยมีอัตราผลตอบแทนที่ระดับ 1.400%
ผลการสำรวจของไอเอชเอส มาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 54.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน หลังจากแตะระดับ 53.9 ในเดือนมิ.ย.
ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ
ส่วนดัชนี PMI เบื้องต้นภาคการผลิตของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 53.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน หลังจากแตะระดับ 52.0 ในเดือนมิ.ย.
ทางด้านดัชนี PMI เบื้องต้นผลผลิตภาคการผลิตของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 54.3 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน หลังจากแตะระดับ 52.6 ในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ ดัชนี PMI เบื้องต้นภาคบริการของสหรัฐ ทรงตัวที่ระดับ 54.2 ในเดือนก.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย.
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หลังจากที่ราคาบ้านพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเกิดภาวะขาดแคลนบ้านในตลาด
ทั้งนี้ ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 1.8% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.52 ล้านยูนิต
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านมือสองจะลดลง 1.0% สู่ระดับ 5.58 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย.
เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมิ.ย.
สต็อกบ้านในตลาดลดลง 0.5% ในเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 1.96 ล้านยูนิต และดิ่งลง 7.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว โดยสต็อกบ้านได้ปรับตัวลงเป็นเวลา 25 เดือนติดต่อกันเมื่อเทียบรายปี
ส่วนราคาบ้านเฉลี่ยพุ่งขึ้น 6.5% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 263,800 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 64 ติดต่อกันเมื่อเทียบรายปี