พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับการเปิดเผยข้อมลเศรษฐกิจสหรัฐ
การดีดตัวของราคาพันธบัตร ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.305% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 2.811%
ทั้งนี้ ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าดีดตัวขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.ย. โดยปรับตัวขึ้น 0.7% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2016 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีราคานำเข้าจะเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าพุ่งขึ้น 2.7% ในเดือนก.ย. หลังจากปรับตัวขึ้น 2.1% ในเดือนส.ค.
ดัชนีราคานำเข้าได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมัน และอาหารที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยสกัดราคานำเข้า
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2016 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนส.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคาส่งออกพุ่งขึ้น 2.9% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนส.ค.
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. โดยได้แรงหนุนจากการผลิตรถยนต์ และอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคสหรัฐ
นักวิเคราะห์คาดว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมจะดีดตัวขึ้นต่อไปในเดือนต.ค. จากการที่โรงกลั่นน้ำมันได้กลับมาทำการผลิต หลังจากที่ปิดโรงงานก่อนหน้านี้จากอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มา
ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นการวัดการปรับตัวของภาคการผลิต, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค โดยทั้ง 3 ภาคต่างดีดตัวขึ้นในเดือนก.ย.
สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านดีดตัวขึ้น 4 จุด สู่ระดับ 68 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.
NAHB ระบุว่า ผู้สร้างบ้านมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม และการเกิดพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มาในเดือนก.ย.
ดัชนีความเชื่อมั่นยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองโดยทั่วไปที่เป็นบวก
ส่วนดัชนีคาดการณ์ยอดขายในช่วง 6 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้น 5 จุด สู่ระดับ 78 จุด ขณะที่ดัชนียอดขายในปัจจุบันบวก 5 จุด สู่ระดับ 75 จุด