อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนดีดตัวขึ้นในวันนี้ จากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอังกฤษ และการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีประเภทอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01% สู่ระดับ 0.49% ซึ่งเป้นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์
ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของประเทศอื่นในยูโรโซนดีดตัวขึ้นในวันนี้เช่นกัน
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของ ECB ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศการปรับลดวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือนในปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมสัปดาห์หน้า เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี หลังการเปิดเผยตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของอังกฤษ
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษขยายตัว 0.4% ในไตรมาส 3 โดยสูงกว่าไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 0.3% และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
เมื่อเทียบรายปี เศรษฐกิจอังกฤษขยายตัว 1.5% ในไตรมาส 3 โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของภาคการผลิตและบริการ รวมทั้งความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมรถยนต์
นอกจากนี้ การคาดการณ์ที่ว่านายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด จะได้รับเลือกให้เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ ก็ได้เป็นปัจจัยผลักดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนในวันนี้
นางซาราห์ แซนเดอร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำการประกาศรายชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดในไม่ช้า
นางแซนเดอร์ยอมรับว่า นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟด และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เป็น 2 ตัวเก็งที่ปธน.ทรัมป์พิจารณาคัดเลือกเป็นประธานเฟด
นักวิเคราะห์ระบุว่า นายพาวเวลเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายพิราบ ซึ่งสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ส่วนนายเทย์เลอร์เป็นนักวิชาการสายเหยี่ยว ซึ่งเน้นการคุมเข้มนโยบายการเงิน และสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่านางเยลเลน
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ปธน.ทรัมป์จะประกาศชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งเขาจะเลือกทั้งนายพาวเวล และนายเทย์เลอร์ โดยให้คนหนึ่งเป็นประธานเฟดแทนนางเยลเลน ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า และอีกคนหนึ่งแทนนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด วัย 74 ปี ซึ่งได้ลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 13 ต.ค.