อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีครั้งใหม่ในวันนี้ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนม.ค. ซึ่งจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าที่คาดไว้ในปีนี้
เจพีมอร์แกนออกรายงานคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ทะยานขึ้นในวันนี้
รายงานของเจพีมอร์แกนยังคาดการณ์ว่า ในการประชุมเดือนหน้า เฟดจะปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เป็น 4 ครั้ง จากเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้น 3 ครั้ง
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.904% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี หลังจากที่เพิ่งแตะระดับ 2.902% เมื่อวันจันทร์
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐ จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นแตะระดับ 3% ในอีกไม่กี่เดือน
นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 5 ปี พุ่งแตะระดับ 2.632% ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2553
ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.164%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงก่อนหน้านี้ ก่อนการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 0.5% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 0.3%
ก่อนหน้านี้ ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ทรงตัวที่ระดับ 2.1% ในเดือนม.ค. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.9%
การพุ่งขึ้นของดัชนี CPI ได้แรงหนุนจากการดีดตัวของราคาอาหาร, น้ำมันเบนซิน, ค่าเช่า และค่าใช้จ่ายด้านการรักษาสุขภาพ
หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานพุ่งขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 0.2%
ก่อนหน้านี้ ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานทรงตัวที่ระดับ 1.8% ในเดือนม.ค. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.7%