อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงปรับตัวลงในวันนี้ ต่อเนื่องจากวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสสหรัฐในวันพรุ่งนี้ และวันพฤหัสบดีนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาถ้อยแถลงของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ และนายแรนดอล ควาร์ลส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด ในวันนี้
ณ เวลา 20.25 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.840% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.129%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
นายพาวเวลจะกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสสหรัฐในวันพรุ่งนี้ และวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งจะเป็นการแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินเป็นครั้งแรกของเขาต่อรัฐสภาสหรัฐ หลังจากรับตำแหน่งประธานเฟด
ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวแถลงการณ์ และตอบข้อซักถามจากคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพรุ่งนี้ และต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐในวันพฤหัสบดี
ตามกำหนดการเดิมนั้น นายพาวเวลจะกล่าวแถลงการณ์ต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพุธ แต่ทางคณะกรรมาธิการฯได้เปลี่ยนแปลงกำหนดการเป็นวันพรุ่งนี้ แทนที่จะเป็นวันพุธ โดยไม่ได้ระบุถึงสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงกำหนดวันดังกล่าว
การกล่าวแถลงการณ์ของนายพาวเวลทั้งในวันพรุ่งนี้ และวันพฤหัสบดีจะมีขึ้นในเวลา 10.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อของสหรัฐ รวมทั้งทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า โดยจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในจำนวน 3 ครั้งของปีนี้
ทั้งนี้ หลังจากที่เฟดได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 30-31 ม.ค. โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า มีโอกาสมากกว่า 95% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 มี.ค.
รายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า ความแข็งแกร่งของแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะใกล้นี้ ทำให้เฟดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปนั้น ถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม
รายงานยังระบุด้วยว่า ข้อมูลเงินเฟ้อที่กรรมการเฟดได้รับมา ประกอบกับข้อมูลที่บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องนั้น ได้ช่วยสนับสนุนมุมมองที่ว่า อัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นในปีนี้ โดยกรรมการเฟดเกือบทุกคนคาดว่า ในระยะกลางนี้ อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% เนื่องจากเศรษฐกิจมีการขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้ และตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง