อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนดิ่งลงอย่างหนักในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภทอายุ 10 ปีของรัฐบาลเยอรมนีและอิตาลีร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีประเภทอายุ 30 ปีปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนประเภทอายุ 10 ปีทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน
ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการขั้นต้นของยูโรโซน อยู่ที่ 55.3 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน และลดลงจากตัวเลขเดือนก.พ.ที่ระดับ 57.1
ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมี.ค.ลดลงสู่ระดับ 56.6 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดรอบ 8 เดือน จากระดับ 58.6 ในเดือนก.พ.
สำหรับดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้น อยู่ที่ 55.0 ในเดือนมี.ค. ลดลงจากระดับ 56.2 เมื่อเดือนก.พ. และทำสถิติต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
ทางด้าน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีร่วงลงสู่ระดับ 114.7 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน จากระดับ 115.4 ในเดือนก.พ. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 114.8
ดัชนีความเชื่อมั่นได้ปรับตัวลง โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า และการใช้มาตรการกีดกันทางการค้า
ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมประกาศใช้อำนาจตามมาตรา 301 เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในวันนี้ เพื่อลงโทษจีนกรณีละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ
อย่างไรก็ดี มาตรการที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้จะไม่รวมถึงการจำกัดการลงทุนของจีนในสหรัฐ หรือจำกัดวีซ่านักศึกษา
ทั้งนี้ มาตรา 301 มอบอำนาจให้ประธานาธิบดีสหรัฐสามารถออกมาตรการตอบโต้ประเทศอื่นๆที่ละเมิดข้อตกลงทางการค้า หรือมีพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับสหรัฐ
นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 3 ครั้งในปีนี้ แทนที่จะเป็น 4 ครั้งตามที่นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ไว้ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซน