อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดิ่งลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนแห่เข้าซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ณ เวลา 21.19 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.826% หลังจากดิ่งแตะ 2.820% ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.053%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมประกาศใช้อำนาจตามมาตรา 301 เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในวันนี้ เพื่อลงโทษจีนกรณีละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ
อย่างไรก็ดี มาตรการที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้จะไม่รวมถึงการจำกัดการลงทุนของจีนในสหรัฐ หรือจำกัดวีซ่านักศึกษา
ทั้งนี้ มาตรา 301 มอบอำนาจให้ประธานาธิบดีสหรัฐสามารถออกมาตรการตอบโต้ประเทศอื่นๆที่ละเมิดข้อตกลงทางการค้า หรือมีพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับสหรัฐ
สื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์เตรียมประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี
นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า ปธน.ทรัมป์ต้องการให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้าลง 1 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐจำนวน 3.752 แสนล้านดอลลาร์
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนเพิ่มขึ้น 16.7% สู่ระดับ 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2558 โดยตัวเลขส่งออกไปยังจีนดิ่งลง 28.1% ขณะที่นำเข้าเพิ่มขึ้น 2.9%
ขณะเดียวกัน การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 3 ครั้งในปีนี้ แทนที่จะเป็น 4 ครั้งตามที่นักวิเคราะห์บางส่วนคาดการณ์ไว้ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตร