อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
ณ เวลา 23.18 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.842% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.006%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมี.ค.
การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐที่เพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย.ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายด้านพลังงาน หลังราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น
หากมีการปรับค่าตามเงินเฟ้อ การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมี.ค.
ส่วนตัวเลขการออมของผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่ระดับ 4.196 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. จากระดับ 4.457 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค.
อัตราการออมลดลงสู่ระดับ 2.8% หลังจากอยู่ที่ระดับ 3.0% ในเดือนมี.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ เฟดมีเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE พื้นฐานจะพุ่งขึ้นทะลุ 2% ในเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือน
นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายในวันนี้ รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้