อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อพันธบัตร จากความกังวลต่อการประชุมสุดยอด G7 ในวันนี้และพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่าที่ประชุมจะมีความเห็นขัดแย้งกับสหรัฐเกี่ยวกับนโยบายการค้า และข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน
ณ เวลา 22.47 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.928% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.078%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวังก่อนการประชุม G7 ที่คาดว่าสหรัฐจะถูกสมาชิกรายอื่นโจมตีเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมในสัปดาห์ที่แล้ว
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความโจมตีผู้นำแคนาดาและฝรั่งเศส ก่อนการประชุมสุดยอด G7 ในวันนี้ โดยกล่าวหาทั้งสองประเทศว่าได้เรียกเก็บภาษีจำนวนมากต่อสินค้าสหรัฐ รวมทั้งตั้งกำแพงการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางการเงิน
"กรุณาบอกท่านนายกฯทรูโด และท่านประธานาธิบดีมาครองว่า พวกเขาได้เรียกเก็บภาษีจำนวนมากต่อสินค้าสหรัฐ และตั้งกำแพงการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางการเงิน โดยสหภาพยุโรปเกินดุลการค้ากับสหรัฐมากถึง 1.51 แสนล้านดอลลาร์ และแคนาดาก็ได้ออกมาตรการกีดกันเกษตรกรของเรา โดยเรียกเก็บภาษีต่อผลิตภัณฑ์นมสูงถึง 300% ผมหวังว่าจะพบกับพวกเขาในการประชุม G7" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ทางด้านนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ทวีตข้อความขู่ที่จะออกแถลงการณ์ G7 โดยมีการลงนามเพียง 6 ชาติ ยกเว้นสหรัฐ
"ประธานาธิบดีสหรัฐอาจจะไม่กังวลที่จะถูกโดดเดี่ยว ซึ่งเราก็ไม่กังวลเหมือนกัน หากจำเป็นต้องมีการลงนามข้อตกลงเพียง 6 ประเทศ เพราะ 6 ประเทศนี้เป็นตัวแทนถึงคุณค่า เป็นตัวแทนถึงเศรษฐกิจตลาดซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนาน และขณะนี้กำลังเป็นพลังที่สำคัญในระดับระหว่างประเทศ" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ทั้งนี้ สมาชิก G7 ประกอบด้วยแคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเกาะติดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 12-13 มิ.ย. โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมดังกล่าว หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง โดยจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ รวมทั้งติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 14 มิ.ย. โดยคาดว่า ECB จะส่งสัญญาณปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดในเดือนก.ย. และตลาดยังรอผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 14-15 มิ.ย.
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังให้ความสำคัญต่อการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์ ซึ่งจะเป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐที่ยังคงอยู่ในตำแหน่ง กับผู้นำเกาหลีเหนือ