อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
ณ เวลา 00.49 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.836% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.98%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐรายหนึ่งกล่าวว่า ทำเนียบขาวจะไม่ใช้มาตรการสกัดกั้นบริษัทที่มีชาวจีนถือหุ้นมากกว่า 25% เข้าซื้อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐ
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐจะมอบหมายให้คณะกรรมการการลงทุนของต่างประเทศในสหรัฐ (CFIUS) เป็นผู้ดูแลกรณีที่บริษัทต่างชาติมีความต้องการซื้อกิจการของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐที่มีความอ่อนไหว
มาตรการที่เจ้าหน้าที่รายนี้เปิดเผยถือว่าไม่เข้มงวดเหมือนกับข่าวที่มีการเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 0.6% ในเดือนพ.ค. หลังจากปรับตัวลง 1.0% ในเดือนเม.ย.
การร่วงลงของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของคำสั่งซื้อเครื่องบิน และรถยนต์
ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ลดลง 0.2% ในเดือนพ.ค. โดยสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากพุ่งขึ้น 2.3% ในเดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายปี ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานดีดตัวขึ้น 6.8% ในเดือนพ.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. ขณะที่สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4%
นอกจากนี้ กระทรวงระบุว่า สหรัฐขาดดุลการค้าลดลง 3.7% สู่ระดับ 6.48 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. เนื่องจากตัวเลขส่งออกได้พุ่งขึ้นมากกว่าการเพิ่มขึ้นของตัวเลขนำเข้า