อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวไร้ทิศทางในวันนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ก่อนรู้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี พุ่งสู่ระดับ 2.924% ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.2551 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.201% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.420%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ชาวอเมริกันเริ่มออกไปหย่อนบัตรลงคะแนนในการเลือกตั้งกลางเทอมที่คูหาใน 12 รัฐในขณะนี้แล้ว ซึ่งการเลือกตั้งดังกล่าวถือเป็นการวัดกระแสความนิยมของประชาชนต่อการบริหารประเทศในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
อย่างไรก็ดี ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่ได้ใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้าแล้ว โดยจากการรายงานของ 49 รัฐ ปรากฎว่า มีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งแล้วจำนวน 36.4 ล้านคนก่อนถึงกำหนดเลือกตั้งในวันนี้
ขณะเดียวกัน 30 รัฐรายงานตัวเลขผู้ใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้ามากกว่าการเลือกตั้งกลางเทอมในปี 2557
ทั้งนี้ การเลือกตั้งกลางเทอมจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐทั้งสภาจำนวน 435 คน ขณะที่เลือกสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 35 คนจากทั้งหมด 100 คน รวมทั้งเลือกผู้ว่าการรัฐ 36 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าพรรคเดโมแครตจะสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ส่วนพรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา ซึ่งหากผลการเลือกตั้งออกมาตามคาด ก็จะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น
หากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากได้ทั้ง 2 สภา สิ่งนี้ก็จะทำให้ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากจะทำให้รัฐบาลมีแนวโน้มออกมาตรการปรับลดอัตราภาษีต่อไป
แต่หากพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากทั้ง 2 สภา ก็จะทำให้ตลาดหุ้นถูกกดดัน เนื่องจากจะทำให้การผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์ เป็นไปอย่างลำบาก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 7-8 พ.ย. โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้x