อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังวิตกว่าสหรัฐอาจเผชิญภาวะการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) อีกครั้งหนึ่ง
ณ เวลา 01.31 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.730% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.044%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ทางด้านหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ภาวะชัตดาวน์อาจเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเขาไม่เชื่อมั่นว่าสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการจัดสรรงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกตามที่เขาต้องการ
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับวอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า เขาคิดว่ามีโอกาสน้อยกว่า 50% ที่สภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงดังกล่าว ก่อนที่งบประมาณสำหรับหน่วยงานรัฐบาลจะสิ้นสุดลงในวันที่ 15 ก.พ.
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า เขาจะไม่รับข้อเสนอของสภาคองเกรสหากมีการจัดสรรงบประมาณต่ำกว่า 5.7 พันล้านดอลลาร์ตามที่เขาเรียกร้อง และเขาจะไม่ให้สัญชาติอเมริกันให้แก่ "ดรีมเมอร์" หรือผู้อพยพที่เข้ามาอยู่อาศัยในสหรัฐตั้งแต่เด็กโดยไม่มีการขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย เพื่อแลกกับการได้งบประมาณสร้างกำแพง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ได้บรรลุข้อตกลงกับผู้นำในสภาคองเกรสเพื่อยุติปัญหาชัตดาวน์ โดยเขาได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลับมาเปิดดำเนินงาน และมีงบประมาณในการบริหารงานจนถึงวันที่ 15 ก.พ.
ในช่วงเวลา 3 สัปดาห์หลังจากนี้ แกนนำของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมาเพื่อจัดทำร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณสำหรับความมั่นคงมาตุภูมิ ซึ่งปธน.ทรัมป์หวังว่าจะมีการบรรจุงบประมาณ 5.7 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกตามข้อเรียกร้องของเขา
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์พูดอย่างชัดเจนว่า ถ้าหากการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันประสบความล้มเหลว รัฐบาลก็จะปล่อยให้เกิดภาวะชัตดาวน์อีกครั้งในวันที่ 15 ก.พ. หรือปธน.ทรัมป์อาจใช้อำนาจประธานาธิบดีประกาศภาวะฉุกเฉิน และออกกฎหมายอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก โดยไม่ต้องผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส