อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนหันเข้าซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า
ณ เวลา 22.50 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.173% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.605%
อย่างไรก็ดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 เดือนอยู่ที่ระดับ 2.354% ในวันนี้ ซึ่งสูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และทำให้เกิดภาวะ inverted yield curve ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว และเป็นการส่งสัญญาณถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ปธน.ทรัมป์สร้างความตื่นตระหนกต่อตลาดด้วยการประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากเม็กซิโกในอัตรา 5% ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. โดยปธน.ทรัมป์มีเป้าหมายที่จะกดดันให้รัฐบาลเม็กซิโกสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายที่ข้ามพรมแดนเข้าสู่สหรัฐ
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์เตือนว่า สหรัฐจะเพิ่มภาษีนำเข้าขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายจากเม็กซิโกจะได้รับการแก้ไข
การดำเนินการของปธน.ทรัมป์ สวนทางกับนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งกล่าวว่า เขากำลังผลักดันสภาคองเกรสให้สัตยาบันต่อข้อตกลงการค้าสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ในช่วงฤดูร้อนนี้ หลังจากที่ทั้งแคนาดาและเม็กซิโกต่างก็ส่งสัญญาณว่าทั้งสองประเทศพร้อมที่จะเริ่มกระบวนการให้การอนุมัติต่อข้อตกลงดังกล่าว
ทั้งนี้ ข้อตกลง USMCA จะเข้ามาแทนที่ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA)
ขณะเดียวกัน สหรัฐยังเผชิญข้อพิพาททางการค้าจากจีน ขณะที่สื่อรายงานว่า จีนได้ระงับการซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐแล้ว และอาจระงับการส่งออกแร่หายากไปยังสหรัฐ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าที่รุนแรงขึ้น
ทางด้านนายจาง หานฮุย รมช.ต่างประเทศจีน กล่าวว่า การยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งทางการค้าเปรียบเสมือนการก่อการร้ายทางเศรษฐกิจ
"เราต่อต้านการทำสงครามการค้า แต่ก็ไม่กลัวการทำสงครามการค้า ซึ่งการยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งทางการค้าเปรียบเสมือนการก่อการร้ายทางเศรษฐกิจ เป็นการบ่อนทำลาย และข่มเหงรังแกทางเศรษฐกิจ" นายจางกล่าว
กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงในวันนี้ว่า ทางกระทรวงจะจัดทำรายชื่อบริษัทต่างชาติ, องค์กร และบุคคล ซึ่งทางกระทรวงมองว่าไม่น่าเชื่อถือ และเป็นภัยต่อบริษัทของจีน
อย่างไรก็ดี ทางกระทรวงไม่ได้ระบุชื่อประเทศ หรือบริษัทใดๆในแถลงการณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า รายชื่อดังกล่าว จะประกอบด้วยบริษัท, องค์กร หรือผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของตลาด และเจตจำนงของสัญญา โดยปฏิเสธการส่งสินค้าไปยังบริษัทจีนอันเนื่องจากเหตุผลที่ไม่เกี่ยวข้องกับเชิงพาณิชย์ และบ่อนทำลายสิทธิและผลประโยชน์โดยชอบตามกฎหมายของบริษัทจีน