อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยง หลังคลายวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ณ เวลา 23.18 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.597% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.068%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
แหล่งข่าวระบุว่า ธนาคารกลางจีนกำลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ธนาคารกลางจีนมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้าชั้นดี (LPR) ในวันที่ 20 ก.พ. และจะปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของสถาบันการเงิน (RRR) ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
"ขณะนี้ ธนาคารกลางใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย และจะดำเนินการทีละขั้นตอน ขณะที่จะจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว" แหล่งข่าวระบุ
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงิน 4 แสนล้านหยวนเข้าสู่ระบบการเงินในวันนี้ นอกเหนือจากที่ได้อัดฉีด 1.2 ล้านล้านหยวนผ่านทางข้อตกลง reverse repo เมื่อวานนี้
นายราฟาเอล บอสติค ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไม่ได้เปลี่ยนมุมมองของเขาที่มีต่อนโยบายการเงิน และภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ
"หากเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นระดับโลก โดยส่งผลกระทบต่อหลายประเทศ ก็จะถือเป็นเหตุการณ์พิเศษที่จะแตกต่างออกไปจากที่ผมเข้าใจในขณะนี้ แต่เมื่อพิจารณาจากประสบการณ์ในอดีตของเราที่เคยเจอเรื่องเหล่านี้มาก่อน ผมไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงมุมมอง หรือการคาดการณ์ของผมต่อทิศทางการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเรา" นายบอสติคกล่าว
"เราได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 3 ครั้ง และกำลังส่งผลต่อเศรษฐกิจ ดังนั้นเราจะรอดูต่อไป ซึ่งนั่นถือเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมาก และจะทำให้สามารถรับมือกับเหตุการณ์แพร่ระบาดในครั้งนี้" เขากล่าว
นอกจากนี้ นายบอสติคยังกล่าวว่า "ขณะที่เงินเฟ้อยังคงมีเสถียรภาพ และการจ้างงานใกล้เต็มศักยภาพ บรรดาผู้นำในภาคธุรกิจไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะเปลี่ยนแปลงแผนการจ้างงานและการลงทุน ดังนั้นจึงเป็นการส่งสัญญาณให้ผมว่า เศรษฐกิจจะยังคงเดินหน้าต่อไป"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดกำลังจับตาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างใกล้ชิด และแม้เขาคาดว่าการระบาดดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน แต่ก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ