อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขานรับความหวังที่ว่าสหรัฐจะกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับความคืบหน้าในการพัฒนายาต้านไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 01.03 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 0.624% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.227%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เปิดเผยแนวทางผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในรัฐต่างๆ หลังมีการบังคับใช้มาตรการอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ แผน "Opening Up America Again" จะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ โดยผู้ว่าการของแต่ละรัฐ จะเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์
นางเกรทเชน วิทเมอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน กล่าวว่า ตนมีความหวังว่ารัฐมิชิแกนจะสามารถผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บางส่วนเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.
นอกจากนี้ นางวิทเมอร์ยังกล่าวว่า หากการปลดล็อกดาวน์ระยะที่ 1 ไม่ได้ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมาพุ่งขึ้นอีก ตนก็จะขยายการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ต่อไป
ทั้งนี้ มิชิแกนมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 29,263 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2,093 ราย
STAT News ซึ่งเป็นนิตยสารด้านสุขภาพ รายงานว่า ผลการทดสอบยา Remdesivir ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสที่ผลิตโดยบริษัท Gilead Sciences ของสหรัฐ พบว่า ยาดังกล่าวสามารถใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จนหายดีได้
รายงานระบุว่า ผลการทดลองยาในระยะ 3 ซึ่งดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยชิคาโกพบว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับยา Remdesivir สามารถฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากอาการไข้ และปัญหาระบบทางเดินหายใจ
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยชิคาโกได้ทำการทดลองยา Remdesivir ในผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 125 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนัก 113 ราย
ทางด้านนายพอล ฮัดสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Sanofi คาดว่า บริษัทจะสามารถผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จำนวน 600 ล้านโดสภายในปีหน้า ถ้าหากการทดสอบทางคลินิคกับบริษัทแกล็กโซสมิทไคลน์ (GSK) มีความคืบหน้าตามแผนที่วางไว้
"เราเชื่อว่าเราเป็นหนึ่งในบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่จะสามารถผลิตวัคซีนจำนวนมาก" นายฮัดสันกล่าว
ทั้งนี้ Sanofi และ GSK ได้ทำข้อตกลงในการร่วมกันผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ภายในสิ้นปีหน้า โดยจะมีการทดสอบทางคลินิคในครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งหากประสบความสำเร็จ ก็จะมีการผลิตในวงกว้างภายในครึ่งหลังของปีหน้า