อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวไร้ทิศทางในวันนี้ หลังสหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานพุ่งเกินคาด
ณ เวลา 23.36 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 0.624% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 1.205%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 4.4 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.3 ล้านราย
จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรวม 5 สัปดาห์อยู่ที่ระดับ 26.4 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตการเงิน
ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องได้พุ่งขึ้นสู่ระดับ 15.98 ล้านราย
การพุ่งขึ้นของตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก
นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่เศรษฐกิจและตลาดแรงงานสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นเร็วเพียงใด จะขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว และไตรมาส 2 จะมีความรุนแรงมากขึ้น โดยเศรษฐกิจอาจหดตัวมากกว่า 10% แต่คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในไตรมาส 3 ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นในไตรมาส 4
นักลงทุนจับตาสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งจะจัดการประชุมในวันนี้ เพื่อลงมติต่อร่างกฎหมายว่าด้วยมาตรการเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กและโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
คาดกันว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะให้การอนุมัติต่อร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นในวันนี้ โดยได้รับความร่วมมือจากสมาชิกทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน
หากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐให้การอนุมัติต่อร่างกฎหมายดังกล่าว ขั้นตอนต่อไปก็จะส่งไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อลงนามเป็นกฎหมาย
ร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นร่างกฎหมายฉบับที่ 4 ที่มีการพิจารณาในสภาคองเกรส ซึ่งหากรวมวงเงินทั้งหมดจะสูงถึงเกือบ 3 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ หลังทรุดตัวจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19