อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงหลุดระดับ 0.55% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2563 ซึ่งหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 70 ปี โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 20.23 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 0.541% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 1.193%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 2/2563 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลง 32.9% ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่สหรัฐเริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2490 หรือกว่า 70 ปีก่อนหน้านี้ หลังจากหดตัว 5% ในไตรมาส 1
อย่างไรก็ดี ตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 2/2563 ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะหดตัวลง 34.7%
การหดตัวของ GDP ในไตรมาส 2/2563 รุนแรงกว่าที่ได้หดตัว 10% ในไตรมาสแรกของปี 2501 และการหดตัว 8.4% ในไตรมาส 4 ของปี 2551
การหดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐทั้งในไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้ได้ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากมีการหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
การทรุดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 2 ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล ซึ่งทำให้มีการปิดเศรษฐกิจเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 5% ในไตรมาส 1 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลข GDP ติดลบ นับตั้งแต่ที่มีการรายงานว่าเศรษฐกิจหดตัว 1.1% ในไตรมาส 1 ของปี 2557
ในปีที่แล้ว เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.1% ในไตรมาส 1 และ 2.0% ในไตรมาส 2 ขณะที่เติบโต 2.1% ทั้งในไตรมาส 3 และ 4
นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.3% ในปี 2562 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยต่ำกว่าระดับ 2.9% ในปี 2561 และ 2.4% ในปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกในการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่เขาตั้งเป้าการขยายตัวรายปีของเศรษฐกิจสหรัฐที่ระดับ 3% ในช่วงการดำรงตำแหน่ง 4 ปีของเขา