บอนด์ยีลด์สหรัฐดีดตัวเหนือ 0.9% นักลงทุนจับตาถ้อยแถลง"พาวเวล"

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 2, 2020 00:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวเหนือ 0.9% ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ซึ่งจะเข้าทำการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเกี่ยวกับการดำเนินการของเฟดและรัฐบาลสหรัฐในการเยียวยาผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19

ณ เวลา 00.07 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 0.916% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.656%

ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน

นายมนูชินและนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มีกำหนดแถลงข่าวในวันนี้เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ วงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนถึงวันที่ 31 มี.ค.2564

เว็บไซต์ของเฟดได้เผยแพร่ร่างแถลงการณ์ของนายพาวเวลซึ่งเตรียมไว้สำหรับการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ โดยระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐและทั่วโลก จะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

"เมื่อพูดถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น เรามองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน และแนวโน้มเศรษฐกิจส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการจัดการกับการแพร่ระบาด"

"จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐและต่างประเทศนั้น ถือเป็นสิ่งที่น่ากังวล และอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยการฟื้นตัวอย่างเต็มรูปแบบของเศรษฐกิจยังไม่มีแนวโน้มเกิดขึ้น จนกว่าประชาชนจะมีความมั่นใจในการเข้าร่วมกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง" นายพาวเวลกล่าว

นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า "แม้มีข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับวัคซีนต้านโควิด-19 ในระยะกลางนี้ แต่ก็ยังมีความท้าทายและความไม่แน่นอนอย่างมีนัยสำคัญในขณะนี้ ซึ่งรวมถึงระยะเวลา การผลิต และการจำหน่ายจ่ายแจก นอกจากนี้ ประสิทธิภาพของวัคซีนของแต่ละบริษัทก็ยังแตกต่างกันด้วย"

นอกจากนี้ นายพาวเวลยังกล่าวถึงความสำคัญของโครงการเงินกู้เพื่อเยียวยาผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งโครงการดังกล่าวจะหมดอายุในวันที่ 31 ธ.ค.นี้

"โครงการเหล่านี้มีความสำคัญในฐานะเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนตลาดสินเชื่อ และยังช่วยฟื้นฟูการไหลเวียนของสินเชื่อจากบรรดาผู้ปล่อยกู้เอกชนผ่านช่องทางปกติ" นายพาวเวลกล่าว

อย่างไรก็ดี นายมนูชินได้กล่าวก่อนหน้านี้ว่า จะไม่มีการต่ออายุโครงการเงินกู้ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ แม้เจ้าหน้าที่เฟดได้เรียกร้องให้มีการขยายโครงการปล่อยกู้ดังกล่าวก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ