อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ณ เวลา 00.46 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 0.908% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 1.662%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ทั้งนี้ สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 15 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตจำนวนเกือบ 300,000 ราย
ทางด้านสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เตรียมพิจารณาการอนุมัติวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ในสัปดาห์นี้
นพ.อัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ กล่าวว่า เขาคาดว่าคณะกรรมการที่ปรึกษาของ FDA จะให้การอนุมัติต่อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัท
ทั้งนี้ คณะกรรมการดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก จะหารือกันในวันพฤหัสบดีนี้เกี่ยวกับการอนุมัติการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ให้แก่ผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งหากคณะกรรมการเห็นพ้องให้การอนุมัติวัคซีนดังกล่าว FDA ก็จะประกาศการอนุมัติอย่างเป็นทางการหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
นายสเตนี โฮเยอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐ เปิดเผยว่า สภาผู้แทนราษฎรจะลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล (ชัตดาวน์) เป็นเวลา 1 สัปดาห์ในวันพรุ่งนี้ และเพื่อให้เวลาแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากขึ้นในการเจรจาข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทางด้านนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา แสดงความหวังว่าสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ภายในวันที่ 11 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะเผชิญภาวะชัตดาวน์