อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มชะลอตัวในวันนี้ หลังจากที่พุ่งขึ้นก่อนหน้านี้จนส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
ณ เวลา 23.01 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.563% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.279%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งทะลุระดับ 1.6% เมื่อวานนี้ หลังจากที่อยู่ต่ำกว่า 1% ในช่วงต้นปีนี้
นักวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจัยที่หนุนการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ได้แก่ ความเชื่อมั่นที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น หลังสิ้นสุดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19, การที่สหรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
นักลงทุนจับตาความคืบหน้าของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอาจทำการพิจารณาและลงมติต่อร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อย่างเร็วที่สุดในวันนี้ หลังจากที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าอาจมีการลงมติในวันพรุ่งนี้
"ขณะนี้เป็นเรื่องของเอกสารเท่านั้น และเราจะมีการลงมติโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" นางแคเธอรีน คล้าก ผู้ช่วยประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าว
ก่อนหน้านี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า สภาฯอาจพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวในเช้าวันพรุ่งนี้เป็นอย่างช้าที่สุด
หากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐให้การอนุมัติร่างกฎหมายฉบับนี้ ก็จะส่งต่อไปยังประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายก่อนวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานในปัจจุบันจะหมดอายุลง
นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของปธน.ไบเดนจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีทรัพยากรที่เพียงพอในการผลักดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และจะทำให้การจ้างงานของสหรัฐกลับสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในปีหน้า
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค. เพื่อดูท่าทีของเฟดต่อแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ