อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.67% ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 13 เดือน ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงผลการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้
ณ เวลา 19.11 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.673% หลังจากอยู่ที่ระดับเพียง 0.9% ในช่วงต้นปีนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.423%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ตลาดจับตาการแถลงข่าวของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด หลังการประชุม เพื่อจับสัญญาณของเฟดเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในขณะนี้
พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รถยนต์ของสหรัฐ ซึ่งหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้น จะทำให้เม็ดเงินในการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดน้อยลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มมากขึ้น และบริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
ถ้อยแถลงของนายพาวเวลในครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากนักลงทุนกำลังกังวลว่า การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และตัวเลขเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจผลักดันให้เฟดยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน หลังจากที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% ต่อไปอีกราว 2-3 ปี
นักลงทุนกังวลว่าเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นจากการที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ เฟดเคยส่งสัญญาณชะลอการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปี 2556 ซึ่งส่งผลให้เฟดลดการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ ทำให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความตื่นตระหนกจนทรุดตัวลงอย่างหนักในปีดังกล่าว
นายเอียน เชปเพิร์ดสัน หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Pantheon Macroeconomics กล่าวว่า เขาจะรู้สึกประหลาดใจ หากนายพาวเวลส่งสัญญาณว่าเฟดจะเข้าสกัดการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในขณะนี้
นายเชปเพิร์ดสันเชื่อว่า นายพาวเวลจะหาทางผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในตลาด แต่เขาจะไม่พูดว่าเฟดจะลดวงเงิน QE เนื่องจากหากนายพาวเวลกล่าวเช่นนั้น ก็จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นโดยทันที ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมตลาดหุ้นที่กำลังมีความกังวลเกี่ยวกับการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
นอกจากนี้ นายเชปเพิร์ดสันกล่าวว่า การที่นายพาวเวลจะยังไม่ส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในวันนี้ เป็นสิ่งที่เหมาะสม เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงมีความไม่แน่นอน และเป็นเพียงการคาดการณ์ของตลาดเท่านั้น